สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง
หน้าหลัก
ประวัติ
กฏหมายที่ควรรู้
ระเบียบคำสั่ง
Police ITA
ITA 2024
ITA 2025
ประวัติความาเป็นมา ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ บริเวณที่ตั้งของสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง เดิมคือบริเวณวังท้ายวัดพระเชตุพนฯ วังที่ 5 ที่สร้างในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวและมีเจ้านายหลายพระองค์ประทับอยู่ในตำนาน วังเก่ากล่าวถึงการสร้างวังใหม่ให้แก่พระเจ้าลูกเธอที่ออกวังในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวไว้ว่า "วังที่สร้างใหม่5 วัง ตอนนี้ สร้างในที่แปลง 1 ด้านเหนือจรดถนนเขตวัดฟระเชตุพน ด้านตะวันออกจรดถนนสนามชัย ด้านตะวันตกจรดถนนมหาราชริมกำแพงพระนคร ด้านใต้ถนนทั้งสองนั้นไปบรรจบกันที่เป็นชายธงตรงสะพานข้ามคลอง (ตลาด) คูเมืองเดิม วังทางตอนเหนือสร้างเป็นคู่ หลังหวังจดกันหันหน้าวังออกถนนสนามชัย ๒ วัง หันหน้าวังออกถนนมหาราช ๒ วัง วังที่สุดทางใต้เป็นวังเดียวด้วยรูปที่เป็นชายธง" โดย
• วังท้ายวัดพระเชตุพนฯ วังที่ 1 สร้างพระราชทานให้กรมหมื่นเชษฐาธิเบนทร์ได้ประทับอยู่จนสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 4 พอถึงสมัยรัชกาลที่ 5 พระราชทานให้เป็นวังของกรมหลวงอดิศรอุดมเดช
• วังท้ายวัดพระเชตุพนฯ วังที่ 2 สร้างพระราชทานให้แก่พระองค์เจ้าลำยอง ต่อมาเป็นวังของกรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ
• วังท้ายวัดพระเชตุพนฯ วังที่ 3 สร้างพระราชทานให้แก่พระองค์เจ้างอนรถ ต่อมาพระองค์เจ้าเปียกเสด็จมาประทับจนสิ้นพระชนม์ในสมัยรัชกาลที่4 ถึงรัชกาลที่ 5พระราชทานให้เป็นวังกรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณและหม่อมเจ้าในกรม
• วังท้ายวัดพระเชตุพนฯ วังที่ 4 สร้างพระราชทานให้กรมหมื่นภูมิทรภักดีเสด็จมาประทับจนสิ้นพระชนม์ในราชการที่ 5 และสุดท้ายคือ
• วังท้ายวัดพระเชตุพนฯ วังที่ 5 เดิมทีจะสร้างพระราชทานให้กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ซึ่งเป็นพระราชโอรส แต่ทรงเห็นว่าพื้นที่ที่จะสร้างวังคับแคบจึงเปลี่ยนไปสร้างวัง ที่ริมแม่น้ำ เหนือปากคลองตลาด (คือ วังริมแม่น้ำใต้ป้อมมหาฤกษ์ ปัจจุบันคือโรงเรียนราชินี) แทน และเสด็จไปประทับอยู่จนสิ้นพระชนม์ จากนั้นมีดำริที่จะขยับขยายวัง จึงขอให้มีการแลกเปลี่ยนวังริมแม่น้ำของกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ซึ่งขณะนั้นกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว และหม่อมเจ้าในกรมของกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ประทับอยู่ในวังสืบต่อมา
ตามพระราชประเพณีเดิม เมื่อกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์สิ้นพระชนม์แล้ว วังที่ประทับควรจะคืนให้แก่หลวงแต่เนื่องจากพระโอรสและพระธิดาของ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์หลายพระองค์ได้เข้ารับราชการทำคุณประโยชน์แก่แผ่นดินและยังเป็นพระญาติวงค์ที่สนิทสนมใกล้ชิดกับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงพระราชทานวังริมแม่น้ำแก่ กรมหมื่นอุดมรัตนราษี ส่วนพระอนุชาของกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์พระองค์เจ้ามงคลเลิศกับหม่อมเจ้าองค์อื่นในกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ โปรดเกล้าฯให้ย้ายมาอยู่ที่วังท้ายวัดพระเชตุพนฯวังที่ 5 แทน พระองค์เจ้ามงคลเลิศสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 4 กรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย์ซึ่งเป็นฟระอนุชาเสด็จมาประทับอยู่จนสิ้นฟระชนม์ เมื่อ พ.ศ.2439 ในรัชกาลที่ 5 หม่อมเจ้าในกรมอยู่ต่อมาจากนั้นพื้นที่ที่เคยเป็นที่ตั้งวังเก่าเหล่านี้ได้มีการสร้างอาคารใหม่กลายมาเป็นสถานที่ราชการในสมัยรัชกาลที่ 6 คือ สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง
พระนามและพระประวัติเจ้านายที่ประทับ ที่วังท้ายวัดพระเชตุพนฯ วังที่ 5 มีดังนี้
1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ พระนามเดิม พระองค์เจ้าชายศิริวงศ์พระราชโอรสองค์แรก ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในเจ้าจอมมารดาทรัพย์ประสูติเมื่อ พ.ศ.2355 ในสมัยรัชกาลที่2 มีพระยศเป็นหม่อมเจ้า ประทับอยู่วังกับพระราชบิดา (กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์) เมื่อสมเด็จพระชนกเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระองค์ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระเจ้า บรมวงศ์เธอพระองค์เจ้า ตามพระราชประเพณี ในปี พ.ศ.2381 สิ้นพระชนม์ พ.ศ.2382 พระชันชา28 ปี ต่อมารัชกาลที่5 ทรงสถาปนาพระอัฐขึ้นเป็นสมเด็จพระราชมาตาม-หัยกาเธอ (ตา) ของ รัชกาลที่ 5 เป็นต้นราชสกุล "ศิริวงศ์ ณ อยุธยา"
2.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นอุดมรัตนราชี พระนามเดิม พระองค์เจ้าชายอรรณพพระราชโอรสองค์ที่32 ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นองค์ที่ 2 ในเจ้าจอมมารดาผึ้ง ประสูติเมื่อ พ.ศ.2563 ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงสถาปนาขึ้นเป็นกรมหมื่นอุดมรัตนราษี กำกับกรมสังฆการีและธรรมการ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 4 เมื่อ พ.ศ.2409 พระชันชา47 ปี เป็นต้นราชสกุล "อรรณพ ณ อยุธยา"
สถานีตำรวจนครบาลฟระราชวัง 79 ถนนมหาราช แขวงพระบรมราชวัง เขตพระนครเหนือกรุงเทพมหานคร ทิศเหนือจรดถนนสนามไชย ทิศใต้จรดถนนมหาราช ทิศตะวันออกจรดถนนราชินีทิศตะวันตกจรดกระทรวงพาณิชย์ (เดิม) ปัจจุบัน คือ มิวเซียมสยาม สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ สำหรับตัวอาคารเก่าของสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง (เดิมคือ ที่ว่าการตำรวจนครบาลที่ 1)ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ถนนสองสายมาบรรจบกัน คือ ถนนมหาราชกับถนนสนามไชย เป็นทางสามแพร่งของถนนมาร่วมกัน ซึ่งคนจีนได้เรียกบริเวณนี้ว่า "ชาก็กวัง" ซึ่งแต่เดิมนั้น สถานีตำรวจพระราชวังตั้งอยู่ในตลาดท่าเตียน ตรงข้ามวิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดพระเชตุพนฯ และในขณะนั้นได้ใช้ชื่อว่า โรงพักท่าเตียน ตัวโรงพักที่ท่าเตียนเป็นตึกสองชั้นลักษณะรูปร่างคล้ายกับกระทรวงกลาโหม ปลูกสร้างอยู่วังที่ 5 โปรดเกล้าฯให้สร้างอาคารโรงโปลิศให้เป็นแบบตะวันตก ใช้เป็นที่ทำการของสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง ณ ที่ตั้งปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๗ ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ลักษณะอาคารสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง เป็นอาคารขนาดเล็กชั้นเดียว ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีระเบียบโค้งครึ่งวงกลมขยายออกมาทั้งสองฝากเป็นอาคารที่ตกแต่งโดยได้รับอิทธิพลจากศิลปะบาร็อกในยุโรป สำหรับประวัติของสถานีตำรวจพระราชวัง เท่าที่มีปรากฏคือ เมื่อโรงพักท่าเตียนย้ายมาอีกทั้ง ต้องรวมข้าราชการตำรวจจากโรงพักท่าเตียนและโรงพักพาหูรัดมาไว้ที่เดียวกัน จากนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง" โดยในช่วงที่เริ่มย้ายมาตั้งใหม่นั้น สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง ยังใช้เป็นที่ตั้งของกองกำกับการตำรวจนครบาล 1 ด้วย (ต่อมากองกำกับการตำรวจนครบาล 1 ได้ย้ายไปอยู่ที่สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์) วันที่ 23 มกราคม 2537 ได้มีคำสั่งกรมตำรวจให้ยุบกองกำกับการที่สังกัดในเขตนครบาล และให้ยกฐานะของสถานีตำรวจเดิมขึ้นเป็นกองกำกับแทน โดยมีผู้กำกับการเป็นหัวหน้าสถานี ขึ้นตรงกับกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน และสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง สังกัดอยู่ในกองกำกับการตำรวจนครบาลเหนือ ขึ้นตรงต่อกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ในปัจจุบันเช่นกัน
Copyright
by prw_6@windowslive.com 2024